
จมูก เป็นจุดกึ่งกลางของใบหน้า ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีทรงจมูกที่แตกต่างกัน หากจมูกมีรูปทรงผิดปกติ เช่น จมูกแบน จมูกบาน จมูกไม่โด่ง สามารถแก้ไขได้โดย การทำศัลยกรรมจมูก เพียงอย่างเดียวก็มีความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าโดยรวมได้ ถือเป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่คนนิยมมากที่สุด
จมูกโด่ง สวยเป๊ะ แบบธรรมชาติ สวยอย่างปลอดภัยเลือกทรงได้ ไม่ว่าจะเป็น ทรงสโลปปลายพุ่ง สโลปปลายหยดน้ำ ทรงโด่งธรรมชาติ ทรงบาร์บี้ หรือจะเป็นทรงสไตล์เกาหลี หมดปัญหาปลายจมูกบาง-ทะลุ มั่นใจในความสวยอย่างปลอดภัยโดยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

วัสดุซิลิโคนที่นิยมนำมาเสริมจมูก
1.ซิลิโคนอเมริกา (USA) : “เน้นมาตรฐานปลอดภัยระดับโลก” ประเทศต้นกำเนิด โดยเป็นบริษัทเจ้าแรกๆที่ผลิตซิลิโคนระดับ Medical grade โดยมีการวิจัยทดลองความปลอดภัยมากมาย มีทั้งแบบนิ่ม และแบบแข็ง ทั้งแบบบล็อคเหลาและสำเร็จรูป และก็เป็นประเภทที่นิยมมากในประเทศไทยด้วย *ที่ โรงพยาบาลเอเซีย เน้นใช้ซิลิโคนอเมริกาทั้งในการเสริมจมูก และเสริมคางเป็นหลัก
2.ซิลิโคนเกาหลี (Korea) : “เน้นความนิ่ม นิยมใช้ในการเสริมจมูก” ที่เกาหลีก็ได้นำซิลิโคนจากประเทศอเมริกามาพัฒนาต่อยอดในรูปแบบของตัวเอง ที่ดังที่สุดก็คือการเน้นใช้ แบบนิ่ม เป็นพิเศษในการ เสริมจมูก เพื่อให้ลักษณะเวลาจับแล้วดูธรรมชาติ ระยะหลังก็เริ่มมีแพทย์ไทยนำเข้ามาใช้มากขึ้น *ที่ โรงพยาบาลเอเซีย มีการนำซิลิโคนเกาหลี ร่วมกับวัสดุทดแทนมาใช้ ตามหลักมาตรฐานความปลอดภัย


รูปแบบของซิลิโคน
ซิลิโคนแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ดังนี้
- ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป
การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแบบสำเร็จรูป คือ จะได้รูปทรงที่แน่นอน พร้อมที่จะใช้งาน มีขนาดความกว้างและยาวให้เลือกตามความเหมาะสม มีโอกาสที่จะเบี้ยว หรือเอียงน้อยน้อยมาก แต่แพทย์จะเหลาปรับรูปทรงของซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงจมูก ของคนไข้แต่ละราย เนื้อซิลิโคนที่มีให้เลือก ความแข็ง-นิ่มได้หลายเกรด
- ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง
ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง จะมีลักษณะ เป็นแผ่นใหญ่ ๆ แล้วนำมาเหลาเองให้เหมาะกับรูปจมูกของคนไข้ โดยแพทย์จะต้องนำมาเหลาขึ้นรูปเอง ทำให้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับจมูกทุกรูปหน้า ด้วยการเหลาตกแต่ง ไม่ว่าจะต้องการโด่งมากน้อยแค่ไหน แต่ใช้เวลานาน และจะต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้จมูกเบี้ยวได้

ซึ่งลักษณะความอ่อน-แข็งของเนื้อซิลิโคนจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้
- ซิลิโคนแข็ง จะคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
- ซิลิโคนนิ่ม เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกไม่หนา เสริมแล้วจมูกดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป

การเสริมจมูกสามารถใช้กระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเป็นวัสดุเสริมจมูกร่วมกับการใช้ซิลิโคน เพื่อป้องกันการทะลุได้
กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อที่ใช้ในการเสริมจมูก เช่น กระดูกซี่โครง กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อก้นกบ หรือไขมัน เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย แต่มีราคาที่สูงกว่าการเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคน
กระดูกอ่อนหลังใบหู (เสริมปลายจมูกให้สวย ลดโอกาสปลายทะลุ), กระดูกอ่อนซี่โครง (ช่วยเพิ่มสันจมูก) และกระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก (เพื่อยืดปลายจมูกให้ยาวและพุ่ง) เนื่องจากเป็นกระดูกอ่อนของคนไข้เอง ทำให้ร่างกายจะไม่มีปฏิกิริยาในการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม เมื่อระยะเวลาผ่านไปร่างกายก็จะทำการสมานจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ยิ่งนานวันก็ยิ่งดูสวยเป็นธรรมชาติ แก้ไขได้ดีทั้งในกรณีเสริมใหม่ หรือกรณีที่ต้องการแก้ไขจากการเสริมครั้งก่อน แม้แต่ผิวที่บางมาก หรือเคยทะลุมาก่อนแล้ว สามารถตกแต่งปลายจมูกตามที่ต้องการได้โดยไม่เสี่ยงทะลุ ให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสริมด้วยซิลิโคนเดี่ยวๆ
รีวิวเสริมจมูก
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก
- ไม่ต้องอดอาหาร เนื่องจากเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ แต่ก็ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป ป้องกันอาการแน่นอึดอัดท้องระหว่างการผ่าตัด
- งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า
- งดหรือเลิกสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะมีผลต่อการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ให้แพทย์ทราบ
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นมากกว่าความเป็นจริง และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
- วันที่ 1-3 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการบวมโดยวางถุงประคบรอบๆ จมูก
- ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม 7 วัน ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียกเช็ด หรือทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า
- ในช่วงวันที่ 4 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบร้อนเพื่อลดอาการบวมช้ำบริเวณรอบๆ จมูก
- นอนศีรษะสูง และห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพราะเนื่องจากอาจไปกดทับบริเวณจมูกที่ยังอักเสบอยู่
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบอย่างเคร่งครัด
- มาตามนัดที่ได้รับจากทางโรงพยาบาล ห้ามแกะพลาสเตอร์ หรือตัดไหมออกเองก่อนกำหนด
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมักของดอง อาหารรสจัด และอาหารที่คบเคี้ยวยากในช่วง 1 เดือนแรก
- สามารถออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
- หากมีความผิดปกติอื่นๆ สามารถมาปรึกษาที่โรงพยาบาลได้ทันที


