ปรึกษาศัลยกรรม

สอบถามราคาและโปรโมชั่น

ปรึกษาศัลยกรรม

สอบถามราคาและโปรโมชั่น

Brightening Laser เลเซอร์หน้าขาวใส ลดริ้วรอย จุดด่างดำ เผยผิวขาวใส จนใครๆต้องเหลียวมอง

Brightening Laser เป็นการแก้ปัญหาผิวในลักษณะคล้ายกับการทำเลเซอร์ แต่ Brightening Laser จะเป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่นยิงไปยังผิวหนังบริเวณที่มีปัญหารอยดำ ในขณะที่เลเซอร์ใช้แสงความยาวคลื่นเดียว เซลล์เม็ดสีในผิวจะดูดซับพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้เม็ดสีที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำถูกทำลาย ทำให้ผิวหน้าที่หมองคล้ำดูกระจ่างใสขึ้น

Brightening Laser ต่างจากเลเซอร์อื่นอย่างไร?

คลื่นแสง Brightening Laser จะกระจายตัวเป็นบริเวณกว้างกว่าแสงเลเซอร์ พลังงานจึงต่ำกว่า แต่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า นอกจากนี้ เนื่องจาก Brightening Laser เป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่น นอกจากลดรอยดำแล้วจึงยังสามารถแก้ปัญหาผิวอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ริ้วรอยตื้นๆ รูขุมขนกว้าง หน้ามัน สิว การอักเสบและรอยแดงจากสิว เป็นต้น

ข้อดี

  • ลำแสงของ Brightening Laser จะไม่ทำลายผิวหนังชั้นบนสุด ต่างจากเลเซอร์ที่มีผลกระทบต่อผิวมากกว่า
  • ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดบาดแผล
  • ใช้เวลาทำแต่ละครั้งไม่นาน ผลข้างเคียงน้อย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • ราคาไม่สูงมาก

ขั้นตอนการรักษา ด้วย Brightening Laser

  • ระยะเวลารับบริการประมาณ 15-30 นาที
  • เริ่มแรกแพทย์จะประเมินผิวบริเวณที่ทำ
  • การแปะยาชาก่อนทำประมาณ 30 นาที เพื่อลดความเจ็บลง
  • ระหว่างทำจะมีการปิดตาเพื่อป้องกันแสงจากเครื่อง Brightening Laser ขณะที่แพทย์ยิงคลื่นแสงจะมีความรู้สึกเหมือนถูกดีดเบาๆ ที่ผิว และรู้สึกอุ่นเล็กน้อย คลื่นแสงจะถูกส่งลงไปลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง กระทบกับเม็ดสี ทำให้เม็ดสีแตกกระจายออกเป็นอณูเล็กๆ และถูกกำจัดออกไปในที่สุด
  • แพทย์จะทำการยิงทีละบริเวณ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวและทาครีมบำรุงเป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ

การดูแลหลังรับบริการ

  • สามารถแต่งหน้า และปฏิบัติตัวได้ตามปกติ
  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้าง และไม่ควรไปอาบแดด ซาวน่า หรือถูกแสงแดด หรือความร้อนจัดๆ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่น้อยกว่า 50 เป็นประจํา
  • ควรใช้โฟมล้างหน้าหรือคลีนซิ่งที่อ่อนโยนต่อผิว และควรล้างหน้าออกให้หมดจด หรือจะให้น้ำเกลือเช็ดก็ได้
  • ไม่ควรถูหน้าแรงๆ และล้างแค่วันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันผิวหน้าเกิดการระคายเคือง
  • ไม่ควรทาครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน A วิตามิน C หรือครีมกลุ่ม AHA
  • ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทั้งระหว่างวันและก่อนนอน
  • รับประทานอาหารให้ครบถ้วน ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายได้นำไปใช้ในการซ่อมแซม ปกป้องดูแลผิว
  • เมื่อเป็นสิวไม่ควรแกะบีบสิว เพราะจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น และเกิดรอยดำ รอยแดง หลุมสิว