ปรึกษาศัลยกรรม

สอบถามราคาและโปรโมชั่น

ปรึกษาศัลยกรรม

สอบถามราคาและโปรโมชั่น

Long Tip Surgery การยืดปลายจมูก คืออะไร?

การเสริมจมูกด้วยเทคนิค Long Tip Surgery เป็นเทคนิคการยืด และแต่งปลายจมูก เพื่อเพิ่มความพุ่ง,โด่งจากทรงเดิม หรือ เพื่อรองปลายกันทะลุในกรณีที่มีการเสริมแล้วเกิดความตึงที่ปลายจมูก (ทำให้ยืดปลายได้อย่างปลอดภัย) หมดปัญหาผิวหนังบางบริเวณปลายจมูก

วัสดุที่ใช้สำหรับยืดปลายจมูกที่นิยม

  1. เนื้อเยื่ออ่อนของผู้ป่วยเอง เช่น เนื้อเยื่อขมับ เนื้อเยื่อก้นกบ ไขมันจากบริเวณต่างๆในร่างกาย กระดูกอ่อนจากบริเวณต่างๆ เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกซี่โครง เป็นต้น
  2. ใช้วัสดุสังเคราะห์ เช่น ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มีการคิดค้นเนื้อเยื่อเทียม Acellular Dermal Matrix (ADM) และ กระดูกอ่อนเทียม (Polycarpolactone-PCL) ที่เป็นสารที่เข้ากับร่างกายได้ดี และเมื่อเนื้อเยื่อร่างกายเข้าไปแทนที่จะเปลี่ยนแปลงในลักษณะคล้ายกับเนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM)  และผนังกั้นจมูกกระดูกอ่อนเทียมนี้ ก็มีความแข็งแรงมากการจนสามารถนำมาใช้ยืดผนังกั้นจมูกได้ ( Septal Extension graft -SEG) คล้ายกับการผ่าตัดยืดผนังกั้นจมูกจริงโดยใช้กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก ซึ่งส่งผลให้จมูกยาวขึ้น ปลายจมูกโด่งพุ่งขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น โดยโอกาสที่ในระยะยาวที่ปลายจมูกจะบางและจะทะลุเหมือนที่เกิดจากซิลิโคนนั้นลดลง
  1. กระดูกอ่อนหลังใบหู

นำมาจากการผ่าตัดซึ่งแผลจะซ่อนอยู่ด้านหลังตรงรอยพับใบหู ซึ่งยากต่อการสังเกตเห็น บริเวณที่นำกระดูกอ่อนออกไปคือบริเวณแอ่งโค้งของใบหู (Concha) ซึ่งการนำกระดูกอ่อนออกในตำแหน่งที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่เกิดการผิดรูปใดๆของใบหู เพราะกระดูกอ่อนที่นำออกไปเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้ใช้ในการค้ำยันใบหู และนำออกไปด้วยปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  • ✔ ข้อดี

– เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง ปลอดภัยมาก

– มีความแน่น ซึ่งทำให้รองรับความตึงได้ค่อนข้างมาก

– สามารถนำมาเติมซ้อนซ้ำได้หลายครั้ง เพื่อเพิ่มความพุ่งโด่ง

– อยู่ได้นานตลอดชีวิต เพราะเป็นการย้ายเนื้อเยื่อของเจ้าตัวเอง

  • ✖️ ข้อเสีย

– มีการผ่าตัดเพิ่มอีกหนึ่งจุดคือ หลังใบหู ซึ่งก็จะเจ็บตัว

– มีแผล(แอบอยู่หลังใบหู ไม่เห็นถ้าไม่พลิกใบหูดู)และ

– ต้องรับความเสี่ยงจากผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเพิ่มอีกตำแหน่ง เช่น ติดเชื้อ แผลแยกเป็นต้น

– มีเจ็บเสียวใบหูบริเวณที่ถูกเอากระดูกอ่อนไป ส่วนใหญ่มักหายใน 1-3 เดือน

– เนื่องจากกระดูกอ่อนใบหูลักษณะเป็นแผ่นที่มีความหนาและมีขอบ ซึ่งถึงแม้แพทย์จะนำกระดูกอ่อนใบหูมาเหลาเอาขอบเหลี่ยมออกแล้วก็ตาม เมื่อนานไป 1-2 ปี อาจมีบางเคสที่จะเห็นเป็นรอยขอบที่ปลายจมูก หรือ คลำรู้สึกได้ (ไม่อันตราย ไม่ทะลุ แต่ อาจสร้างความรำคาญใจ) โดยสามารถมาแก้ไขได้ถ้าคลำเจอหรือเห็นในภายหลัง

  1. เนื้อเยี่อเทียม

เนื้อเยื่อเทียม (Megaderm) เป็นเนื้อเยื่ออ่อนสังเคราะห์ทางการแพทย์ ซึ่งผ่านการวิจัยและกรรมวิธีการสังเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถนำมาใช้ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย โดยใช้แทนเนื้อเยื่ออ่อนของมนุษย์เองในบริเวณต่างๆ

  • ✔ ข้อดี

– เนื่องจากมีลัษณะนุ่มคล้ายเนื้อเยื่ออ่อนของคน จึงทำให้บริเวณที่เติมมีความเนียนสวย มากกว่ากระดูกอ่อนใบหู และ หลังหายดีแล้วคลำจะให้ความรู้สึกนิ่มๆคล้ายเนื้อเราเอง

– ไม่ต้องเจ็บตัว หรือ รับความเสี่ยงจากกการผ่าตัดหลายจุด

– มีหลายขนาดให้เลือก

  • ✖️ ข้อเสีย

– มีการใช้มาไม่นานเท่าการใช้กระดูกอ่อนใบหู

– ซึ่งหลังการเติมอาจมีการสลายไปบางส่วนมากน้อยแล้วแต่กรณีไป

– เสียค่าใช้จ่ายในการเติมมากกว่า

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้แนะนำว่าเราเหมาะกับการยืดปลายแบบไหน เทคนิคไหน ใช้วัสดุชนิดใด แต่ไม่ว่าเลือกใช้วัสดุชนิดไหนแพทย์ต้องมีการเหลาปรับแต่งก่อนที่จะนำไปใช้ทุกชนิด เพื่อให้สวยเนียนเข้ากับรูปจมูกเฉพาะบุคคล 

ดังนั้นก่อนจะทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยใดๆ ควรเลือกแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ และ มาปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุด

  1. ใช้เทคนิคการศัลยกรรมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
  2. ทำการตะไบ Hump ในคนไข้ที่มี Hump
  3. วางซิลิโคนที่เหลาปรับทรงอย่างละเอียด ตามฐานกระดูกเฉพาะบุคคล  ไว้ชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก

* หากคนไข้มีสันจมูกอยู่แล้ว และพอใจกับความโด่งเดิม ไม่จำเป็นต้องเสริมสันด้วยซิลิโคน ก็จะเรียกว่าเป็น “การทำศัลยกรรมจมูกแบบไม่มีซิลิโคนเต็มรูปแบบ (No Silicone Rhinoplasty)”

  1. ยืดผนังกั้นจมูกด้วยกระดูกอ่อนเทียม PCL plate  เพื่อยืดทั้งความยาวและความโด่งให้ปลายจมูก
  2. แท่งซิลิโคนจะยาวมาถึงแค่ผนังกั้นโพรงจมูก ไม่ถึงปลายจมูก ทำให้ปลอดภัย ลดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
  3. เย็บกระดูกอ่อนปลายจมูก Interdome เพื่อเพิ่มความโด่งและเชิดของปลายจมูก
  4. เพิ่มความโด่งที่ปลายอย่างปลอดภัยด้วยผนังกั้นโพรงจมูกเทียม PCL plate และเนื้อเยื่อเทียม ADM
  5. หลังจากนั้นทำการเย็บปิดแผลปลายจมูก

จุดเด่นของการทำจมูก ( Long Tip surgery ) ที่ Asia Hospital

  • เทคนิคพิเศษ เสริมด้วยเนื้อเยื่อเทียม และกระดูกอ่อน ที่จะช่วยให้ยึดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ
  • เหลาซิลิโคนเคสต่อเคส ทำให้เสริมแล้วดูเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้าของคนไข้ทุกเคส
  • สัมผัสเนียนไม่มีรอยต่อของซิลิโคน
  • ไม่เกิดการทะลุ ลดโอกาสปัญหาเบี้ยวเอียงของซิลิโคน
  • ลดขนาดฐานจมูกให้แคบลง
  • สันเรียวสวยดูธรรมชาติ
  • ยืดผนังกั้นจมูกให้ยาวขึ้น ทำให้เพิ่มปลายพุ่งได้มากกว่าเดิม
  • แก้ไขปัญหารูปร่างจมูก ได้ครบทุกรูปแบบ
  • เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เครื่องมือและห้องพยาบาล ได้มาตฐานระดับสากล

รีวิวการเสริมจมูกด้วยเทคนิค Long Tip Surgery

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก

  1. งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย แลออกมากกว่าปกติ
  2. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า
  3. งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ  เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
  4. งดหรือเลิกสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะมีผลต่อการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  5. แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ให้แพทย์ทราบ
  6. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นมากกว่าความเป็นจริง และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

  1. วันที่ 1-3 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการบวมโดยวางถุงประคบรอบๆ จมูก
  2. ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม 7 วัน ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียกเช็ด หรือทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า
  3. ในช่วงวันที่ 4  หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบร้อนเพื่อลดอาการบวมช้ำบริเวณรอบๆ จมูก
  4. นอนศีรษะสูง และห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพราะเนื่องจากอาจไปกดทับบริเวณจมูกที่ยังอักเสบอยู่
  5. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบอย่างเคร่งครัด
  6. มาตามนัดที่ได้รับจากทางโรงพยาบาล ห้ามแกะพลาสเตอร์ หรือตัดไหมออกเองก่อนกำหนด
  7. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมักของดอง อาหารรสจัด และอาหารที่คบเคี้ยวยากในช่วง 1 เดือนแรก
  8. สามารถออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
  9. หากมีความผิดปกติอื่นๆ สามารถมาปรึกษาที่โรงพยาบาลได้ทันที