
Long Tip Surgery การยืดปลายจมูก คืออะไร?
การเสริมจมูกด้วยเทคนิค Long Tip Surgery เป็นเทคนิคการยืด และแต่งปลายจมูก เพื่อเพิ่มความพุ่ง,โด่งจากทรงเดิม หรือ เพื่อรองปลายกันทะลุในกรณีที่มีการเสริมแล้วเกิดความตึงที่ปลายจมูก (ทำให้ยืดปลายได้อย่างปลอดภัย) หมดปัญหาผิวหนังบางบริเวณปลายจมูก
วัสดุที่ใช้สำหรับยืดปลายจมูกที่นิยม
- เนื้อเยื่ออ่อนของผู้ป่วยเอง เช่น เนื้อเยื่อขมับ เนื้อเยื่อก้นกบ ไขมันจากบริเวณต่างๆในร่างกาย กระดูกอ่อนจากบริเวณต่างๆ เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกซี่โครง เป็นต้น
- ใช้วัสดุสังเคราะห์ เช่น ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มีการคิดค้นเนื้อเยื่อเทียม Acellular Dermal Matrix (ADM) และ กระดูกอ่อนเทียม (Polycarpolactone-PCL) ที่เป็นสารที่เข้ากับร่างกายได้ดี และเมื่อเนื้อเยื่อร่างกายเข้าไปแทนที่จะเปลี่ยนแปลงในลักษณะคล้ายกับเนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM) และผนังกั้นจมูกกระดูกอ่อนเทียมนี้ ก็มีความแข็งแรงมากการจนสามารถนำมาใช้ยืดผนังกั้นจมูกได้ ( Septal Extension graft -SEG) คล้ายกับการผ่าตัดยืดผนังกั้นจมูกจริงโดยใช้กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก ซึ่งส่งผลให้จมูกยาวขึ้น ปลายจมูกโด่งพุ่งขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น โดยโอกาสที่ในระยะยาวที่ปลายจมูกจะบางและจะทะลุเหมือนที่เกิดจากซิลิโคนนั้นลดลง

- กระดูกอ่อนหลังใบหู
นำมาจากการผ่าตัดซึ่งแผลจะซ่อนอยู่ด้านหลังตรงรอยพับใบหู ซึ่งยากต่อการสังเกตเห็น บริเวณที่นำกระดูกอ่อนออกไปคือบริเวณแอ่งโค้งของใบหู (Concha) ซึ่งการนำกระดูกอ่อนออกในตำแหน่งที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่เกิดการผิดรูปใดๆของใบหู เพราะกระดูกอ่อนที่นำออกไปเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้ใช้ในการค้ำยันใบหู และนำออกไปด้วยปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ✔ ข้อดี
– เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง ปลอดภัยมาก
– มีความแน่น ซึ่งทำให้รองรับความตึงได้ค่อนข้างมาก
– สามารถนำมาเติมซ้อนซ้ำได้หลายครั้ง เพื่อเพิ่มความพุ่งโด่ง
– อยู่ได้นานตลอดชีวิต เพราะเป็นการย้ายเนื้อเยื่อของเจ้าตัวเอง
- ✖️ ข้อเสีย
– มีการผ่าตัดเพิ่มอีกหนึ่งจุดคือ หลังใบหู ซึ่งก็จะเจ็บตัว
– มีแผล(แอบอยู่หลังใบหู ไม่เห็นถ้าไม่พลิกใบหูดู)และ
– ต้องรับความเสี่ยงจากผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเพิ่มอีกตำแหน่ง เช่น ติดเชื้อ แผลแยกเป็นต้น
– มีเจ็บเสียวใบหูบริเวณที่ถูกเอากระดูกอ่อนไป ส่วนใหญ่มักหายใน 1-3 เดือน
– เนื่องจากกระดูกอ่อนใบหูลักษณะเป็นแผ่นที่มีความหนาและมีขอบ ซึ่งถึงแม้แพทย์จะนำกระดูกอ่อนใบหูมาเหลาเอาขอบเหลี่ยมออกแล้วก็ตาม เมื่อนานไป 1-2 ปี อาจมีบางเคสที่จะเห็นเป็นรอยขอบที่ปลายจมูก หรือ คลำรู้สึกได้ (ไม่อันตราย ไม่ทะลุ แต่ อาจสร้างความรำคาญใจ) โดยสามารถมาแก้ไขได้ถ้าคลำเจอหรือเห็นในภายหลัง

- เนื้อเยี่อเทียม
เนื้อเยื่อเทียม (Megaderm) เป็นเนื้อเยื่ออ่อนสังเคราะห์ทางการแพทย์ ซึ่งผ่านการวิจัยและกรรมวิธีการสังเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถนำมาใช้ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย โดยใช้แทนเนื้อเยื่ออ่อนของมนุษย์เองในบริเวณต่างๆ
- ✔ ข้อดี
– เนื่องจากมีลัษณะนุ่มคล้ายเนื้อเยื่ออ่อนของคน จึงทำให้บริเวณที่เติมมีความเนียนสวย มากกว่ากระดูกอ่อนใบหู และ หลังหายดีแล้วคลำจะให้ความรู้สึกนิ่มๆคล้ายเนื้อเราเอง
– ไม่ต้องเจ็บตัว หรือ รับความเสี่ยงจากกการผ่าตัดหลายจุด
– มีหลายขนาดให้เลือก
- ✖️ ข้อเสีย
– มีการใช้มาไม่นานเท่าการใช้กระดูกอ่อนใบหู
– ซึ่งหลังการเติมอาจมีการสลายไปบางส่วนมากน้อยแล้วแต่กรณีไป
– เสียค่าใช้จ่ายในการเติมมากกว่า

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้แนะนำว่าเราเหมาะกับการยืดปลายแบบไหน เทคนิคไหน ใช้วัสดุชนิดใด แต่ไม่ว่าเลือกใช้วัสดุชนิดไหนแพทย์ต้องมีการเหลาปรับแต่งก่อนที่จะนำไปใช้ทุกชนิด เพื่อให้สวยเนียนเข้ากับรูปจมูกเฉพาะบุคคล
ดังนั้นก่อนจะทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยใดๆ ควรเลือกแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ และ มาปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุด

- ใช้เทคนิคการศัลยกรรมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty)
- ทำการตะไบ Hump ในคนไข้ที่มี Hump
- วางซิลิโคนที่เหลาปรับทรงอย่างละเอียด ตามฐานกระดูกเฉพาะบุคคล ไว้ชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก
* หากคนไข้มีสันจมูกอยู่แล้ว และพอใจกับความโด่งเดิม ไม่จำเป็นต้องเสริมสันด้วยซิลิโคน ก็จะเรียกว่าเป็น “การทำศัลยกรรมจมูกแบบไม่มีซิลิโคนเต็มรูปแบบ (No Silicone Rhinoplasty)”
- ยืดผนังกั้นจมูกด้วยกระดูกอ่อนเทียม PCL plate เพื่อยืดทั้งความยาวและความโด่งให้ปลายจมูก
- แท่งซิลิโคนจะยาวมาถึงแค่ผนังกั้นโพรงจมูก ไม่ถึงปลายจมูก ทำให้ปลอดภัย ลดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
- เย็บกระดูกอ่อนปลายจมูก Interdome เพื่อเพิ่มความโด่งและเชิดของปลายจมูก
- เพิ่มความโด่งที่ปลายอย่างปลอดภัยด้วยผนังกั้นโพรงจมูกเทียม PCL plate และเนื้อเยื่อเทียม ADM
- หลังจากนั้นทำการเย็บปิดแผลปลายจมูก
จุดเด่นของการทำจมูก ( Long Tip surgery ) ที่ Asia Hospital
- เทคนิคพิเศษ เสริมด้วยเนื้อเยื่อเทียม และกระดูกอ่อน ที่จะช่วยให้ยึดปลายจมูกได้มากกว่าปกติ
- เหลาซิลิโคนเคสต่อเคส ทำให้เสริมแล้วดูเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้าของคนไข้ทุกเคส
- สัมผัสเนียนไม่มีรอยต่อของซิลิโคน
- ไม่เกิดการทะลุ ลดโอกาสปัญหาเบี้ยวเอียงของซิลิโคน
- ลดขนาดฐานจมูกให้แคบลง
- สันเรียวสวยดูธรรมชาติ
- ยืดผนังกั้นจมูกให้ยาวขึ้น ทำให้เพิ่มปลายพุ่งได้มากกว่าเดิม
- แก้ไขปัญหารูปร่างจมูก ได้ครบทุกรูปแบบ
- เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เครื่องมือและห้องพยาบาล ได้มาตฐานระดับสากล
รีวิวการเสริมจมูกด้วยเทคนิค Long Tip Surgery
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเสริมจมูก
- งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย แลออกมากกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า
- งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
- งดหรือเลิกสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะมีผลต่อการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ให้แพทย์ทราบ
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นมากกว่าความเป็นจริง และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
- วันที่ 1-3 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการบวมโดยวางถุงประคบรอบๆ จมูก
- ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม 7 วัน ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียกเช็ด หรือทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า
- ในช่วงวันที่ 4 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบร้อนเพื่อลดอาการบวมช้ำบริเวณรอบๆ จมูก
- นอนศีรษะสูง และห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพราะเนื่องจากอาจไปกดทับบริเวณจมูกที่ยังอักเสบอยู่
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบอย่างเคร่งครัด
- มาตามนัดที่ได้รับจากทางโรงพยาบาล ห้ามแกะพลาสเตอร์ หรือตัดไหมออกเองก่อนกำหนด
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมักของดอง อาหารรสจัด และอาหารที่คบเคี้ยวยากในช่วง 1 เดือนแรก
- สามารถออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
- หากมีความผิดปกติอื่นๆ สามารถมาปรึกษาที่โรงพยาบาลได้ทันที


