ปัญหาที่ผู้หญิงกำลังเผชิญ เรื่องของ “ขนาด” ที่ไม่ได้ดั่งใจ หรืออยากแก้ไข “ความหย่อนคล้อย”

หน้าอกที่ได้ทรวดทรง ไม่หย่อนคล้อย ดูอวบอิ่ม คงเป็นเป้าหมายที่สาวๆหลายคน เฝ้าใฝ่ฝันที่จะมีหน้าอกได้รูปสวยงาม และหวังไว้ว่าจะอัพไซส์ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อบุคลิกภาพและเพิ่มเสน่ห์ให้กับตนเอง หรือคนที่มีลูกแล้วก็จะก่อให้เกิดหน้าอกหย่อนยาน ก็สามารถเสริมหน้าอกให้กลับมาตึงกระชับได้อีกครั้ง

ศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่โรงพยาบาลเอเซีย หมดทุกปัญหา ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับสาว ๆ ที่อยากมีรูปร่างและสัดส่วนที่เซ็กซี่ หน้าอกสวย ไม่เป็นบล็อก ไม่มีปัญหานมแข็ง หรือเกิดพังผืด ด้วยซิลิโคนเกรดที่ดีที่สุดทำให้เต้านมนิ่มเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงคือ แผลผ่าตัดได้รับการเย็บอย่างประณีตทำให้แผลเรียบเนียนสวยไปกับผิว การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีให้เลือกหลากหลายแบบขึ้นอยู่กับโครงสร้างหน้าอก และความต้องการ ตั้งแต่วิธีการผ่าตัดทำหน้าอก ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น วัสดุมาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญ วิสัญญีแพทย์

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน โดยปกติแล้วแบ่งออกเป็น 2 ทรง ได้แก่

• หน้าอกทรงกลม (Round type Silicone Implant) เหมาะกับคนที่ต้องการความนูนของเนินหน้าอก และมีเนื้อบริเวณหน้าอกอยู่บ้าง โดยในขนาดที่เท่ากันซิลิโคนทรงกลมจะให้เนินอกด้านบนที่ใหญ่และนูนกว่าซิลิโคนทรงหยดน้ำ
• หน้าอกทรงหยดน้ำ (Tear drop หรือ Anatomical Silicone Implant) เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเสริมหน้าอกให้ดูใหญ่มาก และต้องการเพิ่มความนูนของเนินด้านบนหน้าอกให้น้อย  ดูเป็นธรรมชาติ   โดยในขนาดที่เท่ากันเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำจะให้ความนูนของเนินอกด้านบนที่น้อยกว่าเสริมหน้าอกทรงกลม

แผลจากการศัลยกรรมหน้าอก จะแบ่งออกเป็น 3 ตำแหน่ง คือ รักแร้ ราวนม และปานนม ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้

• บริเวณรักแร้ การผ่าบริเวณนี้จะช่วยให้สามารถปกปิดรอยแผลได้อย่างแนบเนียน แต่อาจทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าแผลบริเวณอื่น เนื่องจากรอยแผลใกล้กับกล้ามเนื้อแขน
• บริเวณราวนม เป็นวิธีการผ่าตัดยอดนิยม เนื่องจากสามารถผ่าตัดได้ง่ายกว่าและจัดทรงง่ายกว่าการผ่าตัดในตำแหน่งอื่น แต่จะมีรอยแผลผ่าตัดที่บริเวณฐานเต้านมที่อาจมองเห็นได้ง่าย
• บริเวณปานนม หรือการผ่าตัดบริเวณรอยต่อของผิวสีเข้มและผิวสีอ่อนตรงหัวนมนั่นเอง เป็นการผ่าตัดที่สามารถซ่อนแผลได้ดีที่สุด แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง อาทิ ปานนมต้องมีขนาดกว้างพอ และขนาดของซิลิโคนต้องไม่ใหญ่มากนัก และในบางรายอาจจะมีอาการหัวนมชาหลังการผ่าตัดได้

การเสริมนมแบบเหนือกล้ามเนื้อ

การผ่าตัดจะทำได้ง่ายกว่า และเหมาะกับสาว ๆ ที่มีเนื้อและไขมันบริเวณเต้านมเดิมมากพอประมาณ เพียงพอที่จะยึดเกาะกับซิลิโคน และกันไม่ให้ถุงเต้านมเทียมไปชนเข้ากับผิวหนังหน้าอกได้

ข้อดีของการเสริมนมแบบเหนือกล้ามเนื้อ

• การผ่าตัดทำได้ง่าย มีผลข้างเคียงน้อย และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการเสริมแบบใต้กล้ามเนื้อ
• เจ็บตัวน้อยกว่าในระยะแรก เพราะการขยับกล้ามเนื้อจะไม่ทำให้ถุงซิลิโคนเคลื่อนที่ตามไปด้วย

ข้อเสียการเสริมนมแบบเหนือกล้ามเนื้อ

• ผิวหน้าอกเป็นคลื่นและริ้ว สัมผัสไม่เรียบเนียน เนื่องจากบริเวณชั้นไขมันไม่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง ทำให้เกิดผังผืดได้ง่าย
• เห็นขอบซิลิโคนชัดเจน โอกาสสัมผัสโดนเนื้อผิวซิลิโคนมาก หน้าอกดูไม่เป็นธรรมชาติ
• หน้าอกหย่อนคล้อยในอนาคต เนื่องจากไม่มีชั้นกล้ามเนื้อห่อหุ้มและรับน้ำหนักของซิลิโคน ซึ่งถ้าหน้าอกหย่อนคล้อยแล้วจะทำให้ยากต่อการแก้ไข ไม่สามารถใส่ซิลิโคนให้เล็กกว่าเดิมเพื่อยกกระชับได้ หรือในบางเคสต้องทำการผ่าตัดเนื้อหน้าอกที่หย่อนยานออก
• ซิลิโคนเคลื่อนลงต่ำและผิดรูป
• ไม่สามารถให้นมบุตรได้ เนื่องจากอาจมีสารปนเปื้อนจากถุงเจลซิลิโคนที่สัมผัสโดยตรงบริเวณต่อมผลิตน้ำนม

การเสริมนมแบบใต้กล้ามเนื้อ

เหมาะกับสาว ๆ ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมน้อย การใส่ซิลิโคนเข้าไปใต้กล้ามเนื้อจะช่วยดันให้เต้านมดูอวบอิ่มเต่งตึงขึ้นได้ และไม่ต้องกลัวว่าถุงเต้านมจะหย่อนคล้อยลง ซึ่งการผ่าตัดจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง

ข้อดีของการเสริมนมแบบใต้กล้ามเนื้อ

• หน้าอกดูนิ่มสวยเป็นธรรมชาติ มองไม่เห็นขอบและคลำไม่โดนผิวของถุงซิลิโคน แถมผิวหน้าอกยังดูเรียบเนียนกว่า ไม่ย่นเป็นลอนคลื่น
• มีโอกาสเกิดพังผืดน้อยกว่า เพราะมีชั้นกล้ามเนื้อกับไขมันคอยห่อหุ้มไว้ และมีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา
• เต้านมดูเต่งตึงกระชับ และไม่ค่อยหย่อนยานเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากมีชั้นกล้ามเนื้อและไขมันรองรับอยู่ อีกทั้งโอกาสที่ถุงซิลิโคนจะถูกดันจนแฟบ พลิก หรือเบี้ยวผิดรูป ก็มีน้อยกว่าด้วย

ข้อเสียของการเสริมนมแบบใต้กล้ามเนื้อ

• เทคนิคการผ่าตัดค่อนข้างยาก และต้องใช้ความชำนาญและความแข็งแรงพร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัยของแพทย์ในการสอดซิลิโคนในชั้นกล้ามเนื้อ
• มีอาการเจ็บมากกว่าการวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อ พักฟื้นนานกว่า

การเสริมหน้าอกแบบ Dual Plane

เทคนิคใหม่ ที่เป็นการวางตำแหน่งซิลิโคน ทั้ง2เทคนิค แบบเหนือกล้ามเนื้อ และใต้กล้ามเนื้อในคราวเดียวกัน เป็นเทคนิคที่ทำให้หน้าอกมีความเป็นธรรมชาติ เพราะส่วนบนของซิลิโคน จะถูกบดบังด้วยชั้นกล้ามเนื้อหน้าอก และซิลิโคนส่วนล่าง จะอยู่เหนือกล้ามเนื้อ เมื่อมองภาพรวมแล้ว หน้าอกจะมีความโค้งมน ดูเป็นธรรมชาติ คลำไม่เจอขอบของซิลิโคน

ข้อดีของการเสริมนมแบบ Dual Plane

• ในระยะยาวไม่ต้องกังวลเรื่องพังผืดรัดเต้านม
• วางซิลิโคนขนาดใหญ่ได้มากกว่า
• รูปทรงของเต้านม จะดูใกล้เคียงธรรมชาติมากกว่าการใส่ใต้กล้ามเนื้อปกติ เพราะฐานของเต้านมของเราจะดูคล้อยเล็กน้อย ไม่ลอยขึ้นมาเหมือนซาลาเปา
• สัมผัสแล้วนุ่ม คล้ายเนื้อเต้านมจริง ไม่แข็ง คลำไม่ได้ขอบซิลิโคน

ข้อเสียของการเสริมนมแบบ Dual Plane

• การผ่าตัดใช้เวลาเข้าที่นาน(3เดือนขึ้นไป)
• มีโอกาสคลำเจอถุงซิลิโคนด้านล่าง
• มีโอกาสที่จะพบถุงซิลิโคนเคลื่อนต่ำลง
• หน้าอกหย่อนคล้อยได้ในอนาคต

หลังศัลยกรรมหน้าอก……นานแค่ไหนถึงจะมี SEX ได้

ไม่ต้องอายเพราะเรื่องแบบนี้ สำคัญมากนะ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ที่รับการผ่าตัดมากกว่า แต่เอาเป็นว่าแนะนำหลังจาก”ตัดไหม”ไปแล้ว2-3สัปดาห์ แต่ยังคงให้หลีกเลี่ยงการกดทับ สัมผัสนมแรงๆ หรือกระแทกในบริเวณที่พึ่งทำศัลยกรรมมา เพื่อป้องกันการอักเสบและไม่ทำให้แผลปริจับเบาๆได้ แต่ถ้า2เดือนไปแล้ว จัดเต็มมมมมมมมมม!!

แม้ความสวยจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการผ่าตัดเสริมหน้าอกก็ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่มีการใช้ยาสลบก่อนการผ่าตัด จึงต้องทำในห้องผ่าตัดที่ได้มีมาตรฐาน และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น สาวๆ คนไหนที่ใฝ่ฝันอยากลองทำซักครั้งในชีวิตจึงควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจ

การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมเสริมหน้าอก

1. งดแอลกอฮอล์ก่อนทำศัลยกรรม
2. งดวิตามินทุกชนิด มีผลต่อการพักฟื้นหลังทำศัลยกรรม 1 สัปดาห์
3. การเสริมหน้าอก เปิดแผลที่ใต้ราวนม แผลเล็ก ไม่เป็นคีลอยด์
4. ต้องตรวจร่างกายก่อนศัลยกรรม
5. ใช้ระยะเวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชม.
6. ซิลิโคนหน้าอก มีให้เลือกครบทุกไซส์ สามารถปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนตัดสินใจได้
7. เสริมหน้าอกปัจจุบัน แผลเล็ก เจ็บน้อย ไม่ต้องค้างคืน สามารถกลับบ้านได้หลังทำทันที
8. ควรเข้าพบแพทย์ตามวันนัดหมายอย่างเคร่งครัด

การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก

1. ควรนอนยกศีรษะและลำตัวสูงเล็กน้อยหลังผ่าตัดเพื่อลดการบวมตึงของแผล
2. ไม่ควรนวดแรงๆก่อนตัดไหม
3. ต้องใส่สปอร์ตบราหรือซัพพอร์ตบราหลังตัดไหมเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
4. ไม่ควรยกของหนักอย่างน้อย 1 เดือน
5. ออกกำลังกายได้หลังจากผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน
6. แผลไม่ควรโดนน้ำ 7วัน
7. เข้าพบแพทย์ตามกำหนดอย่างเคร่งครัด