ปัญหาถุงใต้ตา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการพักผ่อนน้อย, ทานอาหารที่ทำให้เกิดอาการบวม, การระคายเคือง, โรคภูมิแพ้ และอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณใต้ดวงตาอ่อนแอลง ทำให้ไขมันและของเหลวที่อยู่โดยรอบเคลื่อนมารวมกันบริเวณเปลือกตาล่าง เกิดเป็นถุงใต้ตาที่มีลักษณะบวมอย่างเห็นได้ชัด
การผ่าตัดถุงใต้ตาสามารถแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ได้
สาเหตุที่ทำให้เห็นเป็นถุงใต้ตา?
- ขาดการดูแลบริเวณรอบดวงตาที่ดี
- มีความเครียด
- ชอบทำพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันเป็นประจำ อาทิ อดนอนหรือนอนดึก, ร้องไห้บ่อยๆ, ใช้สายตาเพ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน, เพ่งหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์มือถือที่สว่างเกินไป เป็นต้น
- ซึ่งปกติใต้ตาเรามีไขมันที่วางเรียงอยู่ในเบ้ากระดูกตาอยู่แล้ว แต่อาจมีมากเกินไปทำให้เห็นปูดนูนออกมาเป็นถุงใต้ตา
- ใ้ต้ตาดำคล้ำ เกิดจากภูมิแพ้ หรือเส้นเลือดใต้เปลือกตามีการขยายตัวทำให้เห็นเป็นสีคล้ำ ไม่ใช่ถุงใต้ตาจริง
- ดอลลี่อาย (Dolly eye) ที่มีขนาดใหญ่ จนเกินสวย เห็นชัดเวลายิ้ม ก็จะทำให้มีลักษณะเหมือนถุงใต้ตา
- อายุที่มากขึ้น ผิวหนังใต้ตาหย่อนและย่น แต่กรณีนี้มักจะเกิดร่วมกับถุงไขมันใต้ตาปูดออกมาด้วย
วีธีการผ่าตัดถุงใต้ตา จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละบุคคล
1 การตัดถุงใต้ตา พร้อมยกกระชับ สามารถแก้ไขปัญหาผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตา และผิวหนังส่วนเกินใต้ตา โดยแผลจะซ่อนบริเวณแนวขนตาล่างพอดี จะต้องใช้ประสบการณ์ของแพทย์และความประณีตเป็นอย่างมาก เพราะถ้าแผลไม่ชิดขอบตาให้พอดีก็จะทำให้รอยแผลไม่ซ่อน และเห็นได้ชัด โดยแพทย์จะใช้ไมโครเลเซอร์ในการเลาะผิวหนังส่วนเกินชั้นนอก รวมทั้งไขมันออกไปในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้ใต้ตาที่เรียบเป็นธรรมชาติ พร้อมยกกระชับใต้ตาให้เรียบเนียบ อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
นอกจากนี้ ในการประเมินของแพทย์ หากพบว่าคนไข้มีร่องน้ำตาลึก ก็จะแนะนำวิธีที่สามารถทำเพิ่มเติม คือการย้ายถุงไขมันลงไปอุดร่องน้ำตาลึก โดยไม่ต้องตัดถุงไขมันทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ การผ่าตัดตาล่างนอกจากกำจัดถุงใต้ตา และหนังส่วนเกินใต้ตาให้เรียบตึงได้แล้ว ในบางกรณีที่คนไข้มีอาการหย่อนคล้อยของเนื้อแก้มมาก ยังสามารถทำการผ่าตัดยกแก้มได้ในคราวเดียวกันอีกด้วย
2 การผ่าตัดถุงใต้ตา พร้อมเรียงไขมันใต้ตา แผลจะมีขนาดเล็ก 3-5 mm อยู่ด้านในของปลือกตาล่าง แพทย์จะใช้กล้อง microscope ผ่าตัด เพื่อดูดไขมันบริเวณถุงใต้ตาออกมา เนื่องจากแผลอยู่ด้านในและมีขนาดเล็กมาก ทำให้ไม่จำเป็บต้องเย็บแผล แผลสามารถติดเองได้ การผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยวิธีนี้ หลังทำเสร็จแทบไม่มีอาการเจ็บปวด ใช้ยาหยอดตาลดอักเสบเล็กน้อย สามารถล้างหน้าได้ปกติ เพียงแต่หลีกเลี่ยงน้ำเข้าตาโดยตรง
หลังการผ่าตัดถุงใต้ตาและหนังส่วนเกินออกแล้ว หากต้องการให้ผิวบริเวณใต้ตาเรียบเนียนดูมีสุขภาพดีขึ้น และคงความอ่อนเยาว์ ก็สามารถทำเลเซอร์กระชับผิวใต้ตาให้ริ้วรอยที่ผิวหนังชั้นนอกเรียบขึ้น และคงสภาพความตึงของผิวใต้ตาให้อยู่ได้นาน
รีวิวตัดถุงใต้ตา
ข้อควรปฏิบัติก่อนการผ่าตัด
- งดอาหารเสริม วิตามิน C,E น้ำมันตับปลา สมุนไพร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อน
- นอนหลับให้เพียงพอ งดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด
- งดแต่งหน้าในวันผ่าตัดและงดใส่เครื่องประดับทุกชนิด
- เตรียมแว่นตากันแดดมาเอง
- หลังผ่าตัดไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเองเพราะการมองเห็นจะไม่100%ต้องมีญาติมาด้วย เพื่อความปลอดภัย
- เตรียมวันหยุด ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้พักหลังผ่าตัด อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อลดการใช้สายตา
ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัด
- หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก วางเจลประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้น ระวังไม่ให้แผลเปียก
- นอนศีรษะสูงกว่าปกติใน1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
- ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
- ป้ายยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งที่แผลบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะทำให้แผลติดเชื้อได้
- หลังวันที่ 3 ไปแล้ว หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น (ระวังไม่ให้ร้อนเกินไป) ช่วยให้หายเร็วขึ้น สามารถสลับกับประคบเย็นได้เพื่อช่วยให้ลดบวมเร็วขึ้น ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำให้ประคบเย็นต่อไป
- ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามิน สามารถกินได้หลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ทุกชนิด ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูน
- กินยาฆ่าเชื้อจนหมดที่แพทย์สั่ง ยาแก้ปวดกินเฉพาะเวลามีอาการ
- ออกไปข้างนอกให้ใส่แว่นตากันลมฝุ่น สิ่งสกปรก
- ตัดไหมตามนัด 7 วัน