ปรึกษาศัลยกรรม

สอบถามราคาและโปรโมชั่น

ปรึกษาศัลยกรรม

สอบถามราคาและโปรโมชั่น

ศัลยกรรมตาผู้ชาย

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะมีปัญหารอบดวงตา ผู้ชายเองก็หันมาดูแลตัวเองเช่นกัน ผู้ชายจะมีโครงสร้างใบหน้าและรูปตาต่างจากสาวๆ เนื่องจากผู้ชายจะมีกระดูกโหนกคิ้วสูงกว่าผู้หญิง ทำให้มีระยะห่างระหว่างคิ้วกับดวงตาน้อย การทำตา 2 ชั้นในผู้ชายจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เพื่อให้ชั้นตาคงความเป็นธรรมชาติ ได้ลุคหล่อ คม มีเสน่ห์ และไม่ดูหวานจนเกินไป

อัตราส่วนดวงตาในอุดมคติของผู้ชาย

  • ระยะห่างของหัวตา ควรเท่ากับความกว้างของปีกจมูก
  • สัดส่วนความยาวของดวงตาข้างขวา ระยะห่างระหว่างหัวตาทั้งสองข้าง และความยาวของดวงตาข้างซ้าย ในอุดมคติ ต้องเท่ากับ 1 : 1 : 1
  • เมื่อลากเส้นจากหางคิ้ว หางตา และปีกจมูก จะต้องเป็นเส้นตรง
  • หางตาควรยกขึ้นเล็กน้อย โดยทำมุมประมาณ 5 องศากับหัวตา
  • ตาควรจะต้องเปิดโตเห็นตาดำประมาณ 90% และตาดำควรอยู่ตรงกลางพอดี
  • เบ้าตาไม่ลึกโบ๋เป็นร่องเหนือเปลือกตา หรือไม่ปูดนูนออกมาจนเห็นชั้นตาไม่ชัด
  • ขอบตาล่างควรอยู่พอดีกับขอบตาดำ หากขอบตาล่างอยู่ต่ำกว่าขอบตาดำ จะทำให้ดูตาแบะ ตาลอย

ปัญหาตาสองชั้นที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องการแก้ไข

  1. ตาชั้นเดียว หรือเห็นชั้นตาไม่ชัดเจน ดูเหมือนชั้นตาหลบใน ต้องการให้ชั้นตาชัดขึ้น
  2. ตาปรือ ตาลอย ดูง่วงนอน จากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
  3. หนังตาตกหย่อนคล้อยลงมาทำให้ดูมีอายุ
  4. หนังตาตกปิดบางส่วนของตาดำ เริ่มบดบังการมองเห็น
  5. ไขมันเปลือกตาเยอะ ทำให้ดูตาบวม ตาตี่ ไม่มีเสน่ห์
  6. ตาโหล ไขมันเปลือกตาน้อย ดูตาลึกโหล

สิ่งที่สำคัญในการทำตา 2 ชั้นในผู้ชาย

  1. ผู้ชายควร ทำตา ที่ดูเนียนเป็นธรรมชาติ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่ได้แต่งหน้า หรือแต่งหน้าไม่จัด
  2. ไขมันหนังตาของผู้ชายส่วนใหญ่จะมีปริมาณมากกว่าไขมันหนังตาของผู้หญิง
  3. กระดูกโหนกคิ้วของผู้ชายสูงกว่าผู้หญิง ระยะห่างระหว่างคิ้วกับดวงตาผู้ชายจะน้อยกว่าผู้หญิง
  4. ผู้ชายที่ตาเล็ก แนะนำให้ปรับกล้ามเนื้อตาร่วมกับการทำตา 2 ชั้นเพื่อให้ตาดูโตขึ้น

รีวิวการทำตา 2 ชั้นผู้ชาย

1.ชั้นตาไม่ชัด ตาไม่เท่ากัน

2. ตา 2 ชั้นหลบใน

3. หนังตาตกปิดบางส่วนของตาดำ เริ่มบดบังการมองเห็นทำให้ต้องเลิกหน้าผาก

4. หนังตาตกหย่อนคล้อยลงมาทำให้ดูมีอายุ

รีวิวศัลยกรรมตาสองชั้นผู้ชาย

ข้อควรปฏิบัติก่อนการผ่าตัด

  1. งดอาหารเสริม วิตามิน C,E น้ำมันตับปลา สมุนไพร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  2. หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อน
  3. นอนหลับให้เพียงพอ งดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด
  4. งดแต่งหน้าในวันผ่าตัดและงดใส่เครื่องประดับทุกชนิด
  5. เตรียมแว่นตากันแดดมาเอง
  6. หลังผ่าตัดไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเองเพราะการมองเห็นจะไม่100%ต้องมีญาติมาด้วย เพื่อความปลอดภัย
  7. เตรียมวันหยุด ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้พักหลังผ่าตัด อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อลดการใช้สายตา

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัด

  1. หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก วางเจลประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้น ระวังไม่ให้แผลเปียก
  2. นอนศีรษะสูงกว่าปกติใน1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
  3. ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
  4. ป้ายยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งที่แผลบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
  5. ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะทำให้แผลติดเชื้อได้
  6. หลังวันที่ 3 ไปแล้ว หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น (ระวังไม่ให้ร้อนเกินไป) ช่วยให้หายเร็วขึ้น สามารถสลับกับประคบเย็นได้เพื่อช่วยให้ลดบวมเร็วขึ้น ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำให้ประคบเย็นต่อไป
  7. ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามิน สามารถกินได้หลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์
  8. หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ทุกชนิด ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูน
  9. กินยาฆ่าเชื้อจนหมดที่แพทย์สั่ง ยาแก้ปวดกินเฉพาะเวลามีอาการ
  10. ออกไปข้างนอกให้ใส่แว่นตากันลมฝุ่น สิ่งสกปรก
  11. ตัดไหมตามนัด 7 วัน